
สถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์: ต่างกันอย่างไร?
บทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์ แตกต่างกันอย่างไร?
เวลาที่มีคนจะสร้างหรือรีโนเวทบ้านใหม่ หนึ่งในคำถามที่ได้บินบ่อย ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องความสับสนระหว่างบทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซน์ นี่แหละครับ เพราะว่าหลาย ๆ คนคิดว่าทั้ง 2 งานนี้มีความคล้ายกันมากจนแทบแยกไม่ออก แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 อาชีพนี้ทำงานกันคนละส่วนของการสร้างสรรค์บ้านเลย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกว่าทั้งสองอาชีพนี้แตกต่างกันอย่างไร และทำงานร่วมกันได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้บ้านของคุณสวยสมบูรณ์แบบที่สุด
ความหมายและบทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน ผู้สร้างโครงสร้างและภาพรวม
บทบาทและหน้าที่ที่สำคัญของสถาปนิกออกแบบบ้าน นั่นก็คือการออกแบบโครงสร้างที่แข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้ดีที่สุด ก่อนที่จะมีการตกแต่งเข้าไป ดังนั้น สถาปนิกออกแบบบ้าน จึงเป็นเหมือนกับผู้กำกับและวิศวกรไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งมีหน้าที่ในการมองภาพรวมทั้งหมดของโครงการตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง และถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยหน้าที่หลักของสถาปนิกออกแบบบ้าน สามารถสรุปได้สั้น ๆ 2 ข้อ ดังนี้
- วางผังการใช้งาน (Functionality) : สถาปนิกออกแบบบ้านจะทำการวิเคราะห์พื้นที่ ทิศทางของแดด-ลม และสภาพแวดล้อมรอบด้าน เพื่อจัดวางห้องต่าง ๆ ให้เข้าที่เข้าทางที่สุด เช่น ห้องนอนที่ควรรับแสงเช้า หรือห้องครัวที่ควรระบายอากาศได้ดี เป็นต้น
- คำนวณให้มีความปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย : สถาปนิกออกแบบบ้าน จะทำหน้าที่ในการคำนวณโครงสร้างให้บ้านแข็งแรงทนทานต่อแรงลม และแรงสั่นสะเทือนได้ดี รวมทั้งในการออกแบบทุกอย่างจะต้องให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย เพื่อให้คุณเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล
อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ สถาปนิกออกแบบบ้าน จะมีหน้าที่ในการวางรากฐานของบ้านให้มั่นคง ทั้งในด้านของโครงสร้าง การใช้งาน และการขออนุญาตก่อสร้าง ที่เป็นด่านแรกที่สำคัญที่สุดในการสร้างบ้าน
ความหมายและบทบาทของอินทีเรียดีไซเนอร์ ผู้เติมชีวิตชีวาให้กับพื้นที่
เมื่อสถาปนิกออกแบบบ้านได้ทำการสร้าง “เปลือก” ที่แข็งแรง และถูกต้องตามกฎหมายมาแล้ว ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของอินทีเรียดีไซเนอร์ ที่จะเข้ามาเติม “ชีวิต” ให้กับพื้นที่นั้น ๆ ต่อไป
อินทีเรียดีไซเนอร์ คือผู้เชี่ยวชาญที่จะเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นบ้านที่มีจิตวิญญาณ มีสไตล์ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกรายละเอียด พวกเขาจะออกแบบโดยลงลึกในมิติของความรู้สึก และสัมผัสของผู้อยู่อาศัย โดยงานหลักของอินทีเรียดีไซเนอร์ มีดังนี้
- กำหนดสไตล์และบรรยากาศ : อินทีเรียดีไซเนอร์จะให้คำปรึกษา และช่วยในการเลือกโทนสีที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของคุณ พร้อมเลือกวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสดี ๆ และเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง โดยจะเน้นไปที่ความกลมกลืนในทุกองค์ประกอบ
- การจัดสรรพื้นที่ใช้สอย : ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางโซฟา โต๊ะทานอาหาร หรือตู้เสื้อผ้า โดยมีการออกแบบให้ทางเดินภายในบ้านมีความโปร่งโล่ง และสะดวกสบายมากที่สุด เพื่อใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุด
- แสงและรายละเอียด: อินทีเรียดีไซเนอร์ จะช่วยออกแบบแสงสว่าง ทั้งแสงธรรมชาติและแสงไฟประดิษฐ์ภายในบ้าน เพื่อสร้างอารมณ์ และบรรยากาศที่เหมาะสมกับห้องแต่ละห้องในบ้านของเรา
อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ อินทีเรียดีไซเนอร์ จะมีหน้าที่ในการเปลี่ยนอาคารโล่ง ๆ ให้กลายมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ อบอุ่น และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุดนั่นเอง
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซเนอร์
พอเพื่อน ๆ ได้อ่านมาถึงจุดนี้ก็คงจะพอทราบแล้วว่า งานของสถาปนิกออกแบบบ้าน และอินทีเรียดีไซเนอร์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ถ้าจะให้สรุปออกมาแบบง่าย ๆ เราก็สามารถอธิบายได้ ดังนี้
- สถาปนิกออกแบบบ้าน คือผู้ที่ดูแลงาน “'ภายนอกและโครงสร้าง” ของอาคาร ซึ่งเป็นงานออกแบบบ้านในช่วงก่อนที่จะเริ่มก่อสร้าง ซึ่งในการออกแบบนั้นจะเน้นไปที่ความปลอดภัย ความแข็งแรง และการใช้งานระยะยาวของอาคารทั้งหมดเป็นหลัก หน้าที่ของสถาปนิกออกแบบบ้านจะครอบคลุมตั้งแต่การวางผังบ้านทั้งหมด การคำนวณโครงสร้าง ไปจนถึงระบบไฟฟ้า-ประปาหลักด้วย ซึ่งการออกแบบทั้งหมดจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและกฎหมาย ดังนั้น สถาปนิกออกแบบบ้านจึงจำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพเพื่อรับรองความเชี่ยวชาญนี้ด้วย
- อินทีเรียดีไซเนอร์คือผู้ที่ดูแลงาน “ภายในและรายละเอียด” ทั้งหมดของบ้าน โดยเริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงหลังจากที่โครงสร้างเสร็จแล้ว หรืออาจออกแบบควบคู่ไปกับสถาปนิกออกแบบบ้านก็ได้ ซึ่งขอบเขตของงานจะอยู่ที่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ วัสดุปูพื้นผนัง การออกแบบแสง สี และองค์ประกอบตกแต่งอื่น ๆ เพื่อสร้างสไตล์ และเอกลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านให้มากที่สุด
เพราะอะไร บ้านในฝันถึงต้องมีทั้งสถาปนิกออกแบบบ้าน และอินทีเรียดีไซเนอร์
จากที่ได้อธิบายมาทั้งหมด อาจจะฟังดูเหมือนว่าทั้ง 2 อาชีพนี้ทำงานกันคนละส่วน แต่จริง ๆ แล้วการที่บ้านจะสมบูรณ์แบบได้ จะต้องมาจากการทำงานร่วมกันที่ดีของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น การเลือกใช้บริการทั้งสถาปนิกและอินทีเรียดีไซเนอร์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อให้ได้บ้านที่ทั้งแข็งแรง สวยงาม มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจุกจิกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเจาะผนังทำไฟที่ไม่ตรงตำแหน่ง หรือเลือกวัสดุไม่เข้ากับระบบโครงสร้างจนต้องเปลี่ยนใหม่ได้อีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับสถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์
Q: 1. สถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซเนอร์ แตกต่างกันยังไง?อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือสถาปนิกออกแบบบ้านจะดูแลในเรื่องของโครงสร้างความแข็งแรงของบ้าน ส่วนอินทีเรียดีไซน์จะดูแลการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านทั้งหมดนั่นเอง
Q: 2. ถ้าต้องการแค่ปรับปรุงภายในบ้าน ต้องจ้างสถาปนิกไหม?
ไม่จำเป็นต้องจ้างสถาปนิกออกแบบบ้าน ถ้าหากการปรับปรุงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการทุบหรือแก้ไขโครงสร้างหลัก เช่น เปลี่ยนผนัง ย้ายบันได หรือขยายพื้นที่ ถ้าแค่ตกแต่งภายในเพียงอย่างเดียว สามารถให้อินทีเรียดีไซเนอร์ดูแลได้เลย
Q: 3. สองอาชีพนี้ทำงานร่วมกันยังไงให้บ้านออกมาดีที่สุด?
ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยสถาปนิกออกแบบบ้านจะวางผัง และกำหนดช่องเปิดต่าง ๆ ส่วนอินทีเรียดีไซเนอร์ จะเข้ามาออกแบบให้แสงและมุมมองที่สถาปนิกจัดเตรียมไว้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการตกแต่งภายใน
Q: 4. ระหว่างสถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซเนอร์ ใครเป็นคนเลือกวัสดุ?
ทั้ง 2 ฝ่ายมีหน้าที่ในการเลือกวัสดุเหมือนกัน แต่สถาปนิกออกแบบบ้านจะเลือกวัสดุหลักที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างและความคงทนภายนอก ส่วนอินทีเรียดีไซเนอร์จะเลือกวัสดุที่เกี่ยวข้องกับผิวสัมผัส และการใช้งานภายในบ้าน
Q: 5. ถ้ามีงบจำกัด ควรให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากัน?
ควรให้ความสำคัญกับสถาปนิกออกแบบบ้านก่อน เพราะถ้าหากโครงสร้าง และฟังก์ชันพื้นฐานของบ้านไม่ดีมาตั้งแต่แรก การตกแต่งภายในก็ช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น การลงทุนกับรากฐานที่มั่นคงจะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า
บ้านที่ลงตัวเริ่มต้นที่การวางแผนที่ถูกต้อง ปรึกษาสถาปนิกออกแบบบ้านมืออาชีพได้ที่ MASTERTEXTURE
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถาปนิกออกแบบบ้าน หรืออินทีเรียดีไซน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอก และการตกแต่งภายในที่ลงตัว ติดต่อมาหาเราได้เลยที่ MASTERTEXTURE เราคือผู้ให้บริการออกแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในด้านงานสถาปัตยกรรม (Architectural Design) งานตกแต่งภายใน (Interior Design) และงานออกแบบรีโนเวท (Renovation Design) โดยเรามีความเชื่อว่า “การออกแบบที่ดี จะต้องทำงานสอดประสานกันตั้งแต่โครงสร้างภายนอก ไปจนถึงรายละเอียดภายใน” เราจึงพร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณในทุกขั้นตอนของโปรเจกต์ ตั้งแต่การวางแนวคิดเริ่มต้น การจัดสรรพื้นที่ การเลือกวัสดุ จนถึงการสร้างสรรค์ให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมาได้
สถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์: ต่างกันอย่างไร?
บทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์ แตกต่างกันอย่างไร?
เวลาที่มีคนจะสร้างหรือรีโนเวทบ้านใหม่ หนึ่งในคำถามที่ได้บินบ่อย ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องความสับสนระหว่างบทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซน์ นี่แหละครับ เพราะว่าหลาย ๆ คนคิดว่าทั้ง 2 งานนี้มีความคล้ายกันมากจนแทบแยกไม่ออก แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 อาชีพนี้ทำงานกันคนละส่วนของการสร้างสรรค์บ้านเลย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกว่าทั้งสองอาชีพนี้แตกต่างกันอย่างไร และทำงานร่วมกันได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้บ้านของคุณสวยสมบูรณ์แบบที่สุด
ความหมายและบทบาทของสถาปนิกออกแบบบ้าน ผู้สร้างโครงสร้างและภาพรวม
บทบาทและหน้าที่ที่สำคัญของสถาปนิกออกแบบบ้าน นั่นก็คือการออกแบบโครงสร้างที่แข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้ดีที่สุด ก่อนที่จะมีการตกแต่งเข้าไป ดังนั้น สถาปนิกออกแบบบ้าน จึงเป็นเหมือนกับผู้กำกับและวิศวกรไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งมีหน้าที่ในการมองภาพรวมทั้งหมดของโครงการตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง และถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยหน้าที่หลักของสถาปนิกออกแบบบ้าน สามารถสรุปได้สั้น ๆ 2 ข้อ ดังนี้
- วางผังการใช้งาน (Functionality) : สถาปนิกออกแบบบ้านจะทำการวิเคราะห์พื้นที่ ทิศทางของแดด-ลม และสภาพแวดล้อมรอบด้าน เพื่อจัดวางห้องต่าง ๆ ให้เข้าที่เข้าทางที่สุด เช่น ห้องนอนที่ควรรับแสงเช้า หรือห้องครัวที่ควรระบายอากาศได้ดี เป็นต้น
- คำนวณให้มีความปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมาย : สถาปนิกออกแบบบ้าน จะทำหน้าที่ในการคำนวณโครงสร้างให้บ้านแข็งแรงทนทานต่อแรงลม และแรงสั่นสะเทือนได้ดี รวมทั้งในการออกแบบทุกอย่างจะต้องให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย เพื่อให้คุณเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล
อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ สถาปนิกออกแบบบ้าน จะมีหน้าที่ในการวางรากฐานของบ้านให้มั่นคง ทั้งในด้านของโครงสร้าง การใช้งาน และการขออนุญาตก่อสร้าง ที่เป็นด่านแรกที่สำคัญที่สุดในการสร้างบ้าน
ความหมายและบทบาทของอินทีเรียดีไซเนอร์ ผู้เติมชีวิตชีวาให้กับพื้นที่
เมื่อสถาปนิกออกแบบบ้านได้ทำการสร้าง “เปลือก” ที่แข็งแรง และถูกต้องตามกฎหมายมาแล้ว ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของอินทีเรียดีไซเนอร์ ที่จะเข้ามาเติม “ชีวิต” ให้กับพื้นที่นั้น ๆ ต่อไป
อินทีเรียดีไซเนอร์ คือผู้เชี่ยวชาญที่จะเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นบ้านที่มีจิตวิญญาณ มีสไตล์ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกรายละเอียด พวกเขาจะออกแบบโดยลงลึกในมิติของความรู้สึก และสัมผัสของผู้อยู่อาศัย โดยงานหลักของอินทีเรียดีไซเนอร์ มีดังนี้
- กำหนดสไตล์และบรรยากาศ : อินทีเรียดีไซเนอร์จะให้คำปรึกษา และช่วยในการเลือกโทนสีที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของคุณ พร้อมเลือกวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสดี ๆ และเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง โดยจะเน้นไปที่ความกลมกลืนในทุกองค์ประกอบ
- การจัดสรรพื้นที่ใช้สอย : ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางโซฟา โต๊ะทานอาหาร หรือตู้เสื้อผ้า โดยมีการออกแบบให้ทางเดินภายในบ้านมีความโปร่งโล่ง และสะดวกสบายมากที่สุด เพื่อใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุด
- แสงและรายละเอียด: อินทีเรียดีไซเนอร์ จะช่วยออกแบบแสงสว่าง ทั้งแสงธรรมชาติและแสงไฟประดิษฐ์ภายในบ้าน เพื่อสร้างอารมณ์ และบรรยากาศที่เหมาะสมกับห้องแต่ละห้องในบ้านของเรา
อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ อินทีเรียดีไซเนอร์ จะมีหน้าที่ในการเปลี่ยนอาคารโล่ง ๆ ให้กลายมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ อบอุ่น และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุดนั่นเอง
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซเนอร์
พอเพื่อน ๆ ได้อ่านมาถึงจุดนี้ก็คงจะพอทราบแล้วว่า งานของสถาปนิกออกแบบบ้าน และอินทีเรียดีไซเนอร์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ถ้าจะให้สรุปออกมาแบบง่าย ๆ เราก็สามารถอธิบายได้ ดังนี้
- สถาปนิกออกแบบบ้าน คือผู้ที่ดูแลงาน “'ภายนอกและโครงสร้าง” ของอาคาร ซึ่งเป็นงานออกแบบบ้านในช่วงก่อนที่จะเริ่มก่อสร้าง ซึ่งในการออกแบบนั้นจะเน้นไปที่ความปลอดภัย ความแข็งแรง และการใช้งานระยะยาวของอาคารทั้งหมดเป็นหลัก หน้าที่ของสถาปนิกออกแบบบ้านจะครอบคลุมตั้งแต่การวางผังบ้านทั้งหมด การคำนวณโครงสร้าง ไปจนถึงระบบไฟฟ้า-ประปาหลักด้วย ซึ่งการออกแบบทั้งหมดจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและกฎหมาย ดังนั้น สถาปนิกออกแบบบ้านจึงจำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพเพื่อรับรองความเชี่ยวชาญนี้ด้วย
- อินทีเรียดีไซเนอร์คือผู้ที่ดูแลงาน “ภายในและรายละเอียด” ทั้งหมดของบ้าน โดยเริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงหลังจากที่โครงสร้างเสร็จแล้ว หรืออาจออกแบบควบคู่ไปกับสถาปนิกออกแบบบ้านก็ได้ ซึ่งขอบเขตของงานจะอยู่ที่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ วัสดุปูพื้นผนัง การออกแบบแสง สี และองค์ประกอบตกแต่งอื่น ๆ เพื่อสร้างสไตล์ และเอกลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านให้มากที่สุด
เพราะอะไร บ้านในฝันถึงต้องมีทั้งสถาปนิกออกแบบบ้าน และอินทีเรียดีไซเนอร์
จากที่ได้อธิบายมาทั้งหมด อาจจะฟังดูเหมือนว่าทั้ง 2 อาชีพนี้ทำงานกันคนละส่วน แต่จริง ๆ แล้วการที่บ้านจะสมบูรณ์แบบได้ จะต้องมาจากการทำงานร่วมกันที่ดีของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น การเลือกใช้บริการทั้งสถาปนิกและอินทีเรียดีไซเนอร์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อให้ได้บ้านที่ทั้งแข็งแรง สวยงาม มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจุกจิกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเจาะผนังทำไฟที่ไม่ตรงตำแหน่ง หรือเลือกวัสดุไม่เข้ากับระบบโครงสร้างจนต้องเปลี่ยนใหม่ได้อีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับสถาปนิกออกแบบบ้าน VS อินทีเรียดีไซน์
Q: 1. สถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซเนอร์ แตกต่างกันยังไง?อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือสถาปนิกออกแบบบ้านจะดูแลในเรื่องของโครงสร้างความแข็งแรงของบ้าน ส่วนอินทีเรียดีไซน์จะดูแลการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านทั้งหมดนั่นเอง
Q: 2. ถ้าต้องการแค่ปรับปรุงภายในบ้าน ต้องจ้างสถาปนิกไหม?
ไม่จำเป็นต้องจ้างสถาปนิกออกแบบบ้าน ถ้าหากการปรับปรุงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการทุบหรือแก้ไขโครงสร้างหลัก เช่น เปลี่ยนผนัง ย้ายบันได หรือขยายพื้นที่ ถ้าแค่ตกแต่งภายในเพียงอย่างเดียว สามารถให้อินทีเรียดีไซเนอร์ดูแลได้เลย
Q: 3. สองอาชีพนี้ทำงานร่วมกันยังไงให้บ้านออกมาดีที่สุด?
ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยสถาปนิกออกแบบบ้านจะวางผัง และกำหนดช่องเปิดต่าง ๆ ส่วนอินทีเรียดีไซเนอร์ จะเข้ามาออกแบบให้แสงและมุมมองที่สถาปนิกจัดเตรียมไว้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการตกแต่งภายใน
Q: 4. ระหว่างสถาปนิกออกแบบบ้าน กับอินทีเรียดีไซเนอร์ ใครเป็นคนเลือกวัสดุ?
ทั้ง 2 ฝ่ายมีหน้าที่ในการเลือกวัสดุเหมือนกัน แต่สถาปนิกออกแบบบ้านจะเลือกวัสดุหลักที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างและความคงทนภายนอก ส่วนอินทีเรียดีไซเนอร์จะเลือกวัสดุที่เกี่ยวข้องกับผิวสัมผัส และการใช้งานภายในบ้าน
Q: 5. ถ้ามีงบจำกัด ควรให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากัน?
ควรให้ความสำคัญกับสถาปนิกออกแบบบ้านก่อน เพราะถ้าหากโครงสร้าง และฟังก์ชันพื้นฐานของบ้านไม่ดีมาตั้งแต่แรก การตกแต่งภายในก็ช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น การลงทุนกับรากฐานที่มั่นคงจะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า
บ้านที่ลงตัวเริ่มต้นที่การวางแผนที่ถูกต้อง ปรึกษาสถาปนิกออกแบบบ้านมืออาชีพได้ที่ MASTERTEXTURE
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถาปนิกออกแบบบ้าน หรืออินทีเรียดีไซน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอก และการตกแต่งภายในที่ลงตัว ติดต่อมาหาเราได้เลยที่ MASTERTEXTURE เราคือผู้ให้บริการออกแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในด้านงานสถาปัตยกรรม (Architectural Design) งานตกแต่งภายใน (Interior Design) และงานออกแบบรีโนเวท (Renovation Design) โดยเรามีความเชื่อว่า “การออกแบบที่ดี จะต้องทำงานสอดประสานกันตั้งแต่โครงสร้างภายนอก ไปจนถึงรายละเอียดภายใน” เราจึงพร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณในทุกขั้นตอนของโปรเจกต์ ตั้งแต่การวางแนวคิดเริ่มต้น การจัดสรรพื้นที่ การเลือกวัสดุ จนถึงการสร้างสรรค์ให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมาได้